สวัสดีปีหมู 2019 มีบทความดีๆ จากนักวิเคราะห์มือฉมังแห่งวงการยา มนู สว่างแจ้ง อดีตกรรมการใหญ่ บริษัทไฟเซอร์ ประเทศไทย จำกัด และปัจจุบันท่านดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทอาหารเสริมและยาที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ได้มานำเสนอหัวข้อเปิดประเด็นแห่งปีที่น่าสนใจของอุตสาหกรรมยา “ปัจจัยและผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยา 2019” ซึ่งทุกท่านสามารถไปติดตามได้จากบรรณานุกรม ต่อไปนะครับ ในมุมมองของพี่มนูต่อร้านยา ท่านมองเห็นว่า ปัจจัยหลักๆที่จะมีผลต่อร้านยาในปีหมูนี้คือ GPP ที่เปรียบเสมือนปัญหาหรือโอกาสของวงการร้านยาเลยว่าจะสามารถยกระดับการบริการแบบมีเภสัชกรมาดูแลแบบมืออาชีพ หรือต้องล้มหายตายจากไป เราจะมาวิเคราะห์ให้เห็นว่า ร้านยาเภสัชกรควรปรับตัวอย่างไรครับ
GPP คืออะไร?
- กฎกระทรวง GPP (Good Pharmacy Practice) ดำเนินการตามบันได 3 ขั้น ตั้งแต่ปี 2561 – 2565
- มาตรการให้แยกจดทะเบียนระหว่างร้านขายปลีกและขายส่ง
- กรมสรรพากรพยายามให้ร้านยาจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
ผลกระทบคือ
- GPP ส่งผลกระทบโดยตรงต่อร้านขายยาเล็กๆ โดยพบว่าร้านยาจำนวนหนึ่งประกาศปิดร้าน/เซ้งร้าน เพราะมีกติกามากมายที่ต้องปรับปรุงร้านยา ซึ่งเมื่อคำนวณแล้วไม่คุ้มต่อการดำเนินการ
- โจทย์ GPP สำหรับผู้ประกอบการร้านยาต่อไปคือ ภายในปี 2565 จะต้องมีเภสัชกรตลอดเวลาทำการ
- กรรมการสภาเภสัชกรรมชุดใหม่ ส่วนใหญ่มีหัวคิดก้าวหน้า น่าจะเข้มงวดในเรื่องเภสัชกรผู้มีหน้าที่ที่ไม่อยู่ประจำร้านขายยาจริง (แขวนป้าย)
- ต้องติดตามมาตรการของกรมสรรพากรในเดือนมีนาคม 2565 กรณีร้านยาที่ยังไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
- หากมาตรการ GPP สำเร็จครบถ้วนในปี 2565 จะส่งผลให้ระบบบัญชียาโปร่งใส ลดยา cross channel ระบบ stock ยาจะเป็นไปตามจริง